ติดต่อ-สอบถาม

วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560

จริงหรือ? คนไทยพร้อมใช้ Mobile Wallet หากมาพร้อม “ของแถม”

จริงหรือ? คนไทยพร้อมใช้ Mobile Wallet หากมาพร้อม “ของแถม”

จริงหรือ? คนไทยพร้อมใช้ Mobile Wallet หากมาพร้อม “ของแถม”

Thumbsup
สนับสนุนเนื้อหา
ใครที่กำลังถอดใจเรื่องสภาพเศรษฐกิจ บางทีอาจต้องลองฟังผลวิจัยจากสองแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินอย่าง Visa และ MasterCard ที่ออกมาเผยข่าวดี หลังพบทิศทางในเชิงบวกจากการขับเคลื่อนนโยบาย Cashless Society โดยพบว่าคนไทยสนใจชำระเงินผ่าน Mobile Wallet เพิ่มสูง หากมีข้อเสนอและความปลอดภัยที่ดี แถมยังพบว่าคนไทยมองอนาคตในแง่บวก เนื่องจากมีความเชื่อมั่นว่ารายได้ในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเพิ่มขึ้น
โดยผลสำรวจฉบับล่าสุดของ Visa เกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภค แสดงให้เห็นว่า 94% ของคนไทยสนใจที่จะชำระเงินผ่าน Mobile Wallet หากมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่น่าไว้วางใจ รวมถึงข้อเสนอจูงใจและบริการเสริมอื่นๆ เช่น แบรนด์ลอยัลตี้โปรแกรม และการสะสมแต้มต่างๆ รวมถึงใบแจ้งหนี้ดิจิทัลเพื่อติดตามค่าใช้จ่าย
นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ผลการศึกษาครั้งนี้เป็นการยืนยันได้ว่าผู้บริโภคไม่เพียงแค่ต้องการการชำระเงินผ่านมือถือที่รวดเร็ว ใช้งานง่าย และปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องการโปรโมชั่น และฟังก์ชั่นในการสะสมหรือใช้แต้มได้ด้วย”
ทั้งนี้จากตัวเลขของ VISA พบว่า การทำธุรกรรมบนมือถือนั้น เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินคิดเป็นครึ่งหนึ่งของการทำธุรกรรมบนมือถือทั้งหมด (51 เปอร์เซ็นต์) ในขณะที่การซื้อของออนไลน์คิดเป็นสามในสิบ (31 เปอร์เซ็นต์) ในส่วนของผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินนั้นมีการใช้งานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 14 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่า 87% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มีการชำระเงินผ่านมือถือในปีที่ผ่านมาและ 58% ได้ใช้เป็นประจำทุกสัปดาห์ แต่อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการหันมาใช้การชำระเงินผ่านมือถือคือเรื่องความปลอดภัย แบ่งออกเป็น
  • ความกลัวจากการแฮ็กโทรศัพท์และการขโมยข้อมูล (34 เปอร์เซ็นต์)
  • การทำโทรศัพท์หายหรือถูกขโมย (22 เปอร์เซ็นต์)
  • การเข้าถึงบัญชีส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต (17 เปอร์เซ็นต์)
  • ไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ (9 เปอร์เซ็นต์)
นอกจากนี้ VISA ยังเผยว่า QR Code จะเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนโลกให้เข้าสู่สังคมไร้เงินสดในอนาคตด้วย
ด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ MasterCard พบความเชื่อมั่นด้านรายได้ของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี โดยผู้บริโภคชาวไทยเชื่อมั่นว่า ในช่วง 6 เดือนข้างหน้าจะได้รับรายได้ประจำและผลตอบแทนจากการทำงานเพิ่มขึ้น 
แต่หากเปรียบเทียบในภูมิภาคพบว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีการปรับตัวของความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ขณะที่อินเดียเป็นตลาดที่มีระดับความเชื่อมั่นลดลงมากที่สุดในภูมิภาค โดยมีคะแนนต่ำลงถึง 9.3 จุด
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : thumbsup.in.th

วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560

นักวิเคราะห์กังวลยอดขาย iPhone 8 อาจแป้กเพราะตั้งราคาเปิดตัวแพงเกิน

นักวิเคราะห์กังวลยอดขาย iPhone 8 อาจแป้กเพราะตั้งราคาเปิดตัวแพงเกิน

นักวิเคราะห์กังวลยอดขาย iPhone 8 อาจแป้กเพราะตั้งราคาเปิดตัวแพงเกิน


Mark Moskowitz นักวิเคราะห์จากบริษัทการเงิน Barclays ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงบวกกับ Samsung ที่มีแนวโน้มจะครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมได้มากขึ้นจากการเปิดตัว Galaxy Note 8 แต่ขณะเดียวกันกลับแสดงความเป็นกังวลกับ iPhone 8 ที่เตรียมจะเปิดตัวในเดือนหน้า โดยอ้างอิงจากผลสำรวจพบว่ากลุ่มลูกค้าลังเลที่จะยอมจ่ายเงิน  ซึ่งคาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นสูงถึง 1,000 เหรียญฯ และทำให้มียอดขายน้อยกว่า iPhone 7s และ iPhone 7s Plus ที่เปิดตัวพร้อมกัน
ทั้งนี้ Barclays ได้เปิดเผยผลสำรวจพบว่ามีผู้ใช้ iPhone เพียง 18% วางแผนจะซื้อ iPhone 8 ในราคา 1000 เหรียญฯ ขึ้นไป ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตำกว่าที่กลุ่มนักลงทุนคาดไว้ที่ 30-35% โดยนอกจากนี้ Apple จะต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผู้บริโภคมีแนวโน้มหันไปจับสมาร์ทโฟนในกลุ่ม mid-range ซึ่งเป็นตลาดที่คู่แข่งรายอื่น ๆ อย่าง Huawei, OPPO, Vivo ทำตลาดอย่างเข้มข้นอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่ทาง Samsung นั้น Barclays วิเคราะห์ว่าพวกเขาจะเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้าและต่อยอดแบรนด์ตระกูล Note ไปได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งในไตรมาสล่าสุดก็มีสัญญาณเติบโตที่ดีึ้นแล้วสำหรับ Samsung ในตลาดสมาร์ทโฟนพรีเมียม

วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Galaxy J7 กล้องคู่ถ่ายหลังละลายที่ราคาเอื้อมถึงได้

Galaxy J7 กล้องคู่ถ่ายหลังละลายที่ราคาเอื้อมถึงได้

Galaxy J7 กล้องคู่ถ่ายหลังละลายที่ราคาเอื้อมถึงได้

แบไต๋
สนับสนุนเนื้อหา
สำหรับใครที่เห็น Samsung Galaxy Note 8 แล้วกระเป๋าเงินในมือสั่น แต่งบไม่ถึง ทาง Samsung ก็ไม่ใจร้าย ปล่อย Galaxy J7+ ซึ่งเป็นมือถือตระกูล J ที่เป็น “สมาร์ทโฟนกล้องคู่…ถ่ายรูปสวยหน้าชัด หลังละลายได้ ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ครบจบในเครื่องเดียว” จัดเต็มไปเลย ซึ่งทาง Samsung ก็ได้เผยสเปคคร่าว ๆ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการมาให้คุณได้รู้จักก่อนใครเลย
สเปค Galaxy J7+ CPU Octacore 2.39 GHz RAM 4 GB ROM 32 GB เพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256GB หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FullHD กล้องหลังคู่ 13 ล้าน f 1.7 กล้องรอง 5 ล้าน f 1.9 กล้องหน้า 16 ล้าน f1.9 (ถือว่ากว้างมาก ๆ สำหรับกล้องมือถือ เหมาะกับการถ่ายหน้าชัด หลังเบลอ มาก ๆ) มี feature Live Focus แบบเดียวกับ Galaxy Note 8 สำหรับกล้องหลังอีกด้วย มีระบบ Multi window / Bixby / Dual messenger / Secure Folder / Face detection & fingerprint security วางจำหน่าย 3 สีคือ ดำ ทอง และชมพู ยังไม่เผยราคาและวันวางจำหน่าย

รวมผลเสียหากกระจกนิรภัยแตกแต่ยังคงใช้อยู่ต่อไป

รวมผลเสียหากกระจกนิรภัยแตกแต่ยังคงใช้อยู่ต่อไป

รวมผลเสียหากกระจกนิรภัยแตกแต่ยังคงใช้อยู่ต่อไป

S! Hitech
สนับสนุนเนื้อหา
ทุกครั้งในการซื้อมือถือหลายคนก็เลือกที่จะติดฟิล์มหรือเพิ่มขึ้นมาเพื่อป้องกันความเสียหายจากกระจกของตัวเครื่องจริงที่จะเกิดขึ้น แต่ว่า ถ้ากระจกนิรภัยแตกขึ้นมา ถ้าคุณไม่เปลี่ยนจะเกิดผลเสียอะไร วันนี้ Sanook! Hitech จะมารวมผลเสียต่าง ๆ หากกระจกนิรภัยแตกแต่ยังคงใช้อยู่

เครื่องไม่สวยเหมือนแต่ก่อน

แน่นอนว่ากระจกแตกก็ทำให้ความสวยของเครื่องลดลงเพราะแทนที่จะดูลื่นตา แต่มาสะดุดเพราะกระจกที่แตกร้าวและเห็นได้ชัดเจน และอาจจะทำให้ดูภาพลักษณ์ไม่ดีเช่นกัน

เซนเซอร์อาจจะทำงานผิดพลาดได้

กระจกที่แตกนั้นอาจจะมีผลกระทบกับเซนเซอร์ได้หากโดนในส่วนเซนเซอร์ที่เป็นจุดสีดำ อาจจะทำให้การทำงานเช่นเรื่องของ วัดแสงอาจจะจับไม่ดี หรือ จับเรื่องของการถือโทรไม่ได้ มีผลกระทบระยะยาว แต่อาจจะไม่ได้เป็นกับมือถือบางเครื่องได้

กระจกแตกอาจจะบาดนิ้ว

แน่นอนว่ากระจกที่มีรอยแตกกับนิ้วมือที่เป็นเนื้อหนังของเรา มันไม่ค่อยจะถูกกันเท่าไหร่ เพราะกระจกที่แตกมักจะมีความคมอยู่แล้วการที่นิ้วเราสัมผัสอาจจะเกิดการบาดได้และถ้าบาดนั้นไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

มองภาพไม่ชัดเจนหากแตกตรงส่วนแสดงผล

สุดท้ายถ้ากระจกนิรภัยแตก อาจจะส่งผลร้ายแรงถึงขั้นการมองภาพนั้นไม่ชัดเจนได้ เพราะรอยต่าง ๆ ที่อยู่บนกระจกอาจจะไปบดบังการมองเห็นของเราได้
และคำถามต่อมา ถ้ารู้ว่าแตกแล้ว ควรเปลี่ยนทันทีหรือไม่ อันนี้ก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับความเสียหายของกระจกเอง ถ้าไม่ได้กระทบมากนั้น ยังไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ แต่ถ้าเกิดมากขึ้นและเริ่มโดนส่วนที่สำคัญ การเปลี่ยนก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน

วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Photomath แอปแก้โจทย์คณิตที่ที่เด็กประถม

Photomath แอปแก้โจทย์คณิตที่ที่เด็กประถม

Photomath แอปแก้โจทย์คณิตที่ที่เด็กประถม

แบไต๋
สนับสนุนเนื้อหา
คำว่า “เทคโนโลยีบรรดาสุข” นี่เห็นจะจริง เพราะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด จนบางทีเราคิดว่า เหยยย ทำไมแกฉลาดเยี่ยงนี้ เหมือนกับแอปที่เราจะนำมารีวิววิธีการใช้งานในวันนี้กัน เพราะมันชวนพิลึกและตกใจหน่อยๆ
ก่อนหน้านี้เราเคยสัมผัสกับความอัศจรรย์ในการแปลภาษาผ่านการใช้กล้องจากสมาร์ทโฟนถ่ายรูปในแอป “Translate Photo” และ “Google แปลภาษา” มาบ้าง แต่ตอนนี้เราอาจพิศวงกันเพิ่มนิดหน่อย เพราะเราสามารถแก้โจทย์คณิตศาสตร์จากการถ่ายรูปได้แล้ว
เจ้าแอปที่เราพูดถึงในวันนี้ก็คือแอป “Photomath” นั่นเอง อันที่จริงเจ้าแอป Photomath นี้ เคยเป็นกระแสเมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นจนโด่งดังมาก วันนี้แบไต๋เลยจะยกเจ้าแอปเจ๋งๆ ตัวนี้มาพูดถึงอีกครั้งกัน
Photomath เป็นแอปที่ไม่ได้มีการใช้งานที่ซับซ้อนอะไร และไม่ได้มีฟีเจอร์แยกย่อยที่หลากหลายใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าพูดให้จบเพียง 2 บรรทัด เจ้าแอปนี้ใช้สำหรับแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ไม่ซับซ้อนมาก ด้วยการกรอกโจทย์ และการถ่ายรูป โดยมีคำอธิบายในการแก้โจทย์ประกอบด้วย
เอาหล่ะ มาลองดูกันดีกว่า ว่าเจ้าแอปนี้ใช้งานยังไงบ้าง
เมนูแรกคือเมนู “แก้ไข” สำหรับเจ้าตัวนี้การใช้งานก็ง่ายมากเหมือนการกรอกตัวเลขในเครื่องคิดเลขนั่นแหละ และผลลัพธ์จากการแก้โจทย์ที่เรากรอกก็จะออกมาในช่องสี่เหลี่ยมสีแดงข้างล่าง แต่ความพิเศษของเจ้าแอปนี้คือ เจ้าแอปนี้จะมีคำอธิบายว่าโจทย์นี้แก้มาได้อย่างไร โดยการคลิกที่ช่องสีแดงนั้น และจะมีคำอธิบายพอสังเขปขึ้นมาค่ะ
สำหรับเมนูถัดไป นั่นคือ “กล้อง” วิธีการใช้งานก็ง่ายมากๆ หยิบสมาร์ทโฟนของเรามากดจึ้ก!! ถ่ายเสร็จก็จะมีช่องสีขาวที่แสดงโจทย์ (เผื่อว่าลายมือเละมาก จนเจ้าแอปอ่านผิด เราก็สามารถกดแก้ไขโจทย์ได้) และช่องสีแดงปรากฎออกมาเช่นเดียวกับเมนูที่ให้กดกรอกโจทย์อันแรก ซึ่งเราก็สามารถกดเพื่อดูวิธีทำได้เช่นเดียวกับการกรอกโจทย์ค่ะ
สำหรับเมนูถัดมา ที่ถูกเรียกว่า “วิธีทำ” ก็คือเมนูที่เชื่อมมาจากการใส่โจทย์เลขและการถ่ายรูปโจทย์นั่นเอง ซึ่งก็เป็นอันเดียวกับที่เราสามารถกดดูจากช่องสีแดงได้นั่นเองค่ะ
ส่วนเมนูสุดท้ายก็คือ “สมุดโน้ต” เจ้าเมนูนี้ก็คือเมนูที่เราตั้งโจทย์เป็นรายการโปรดไว้ เวลาเลื่อนมาหาโจทย์ที่เคยคำนวณก็จะได้ง่ายนั่นเอง นอกจากนี้ในเมนูสมุดโน้ตเรายังสามารถเลื่อนดูประวัติการทำโจทย์ได้ด้วยค่ะ
ดาวน์โหลด iOS Android
หูววว เป็นไงคะ สะดวกสบายขึ้นเยอะ ต่อไปเวลาเจอโจทย์คณิตศาสตร์อะไร ก็สามารถเอามาลองไล่ทำดูได้แล้ว แต่ข้อจำกัดของแอปนี้คงหนีไม่พ้น การไม่ได้แอดวานซ์ที่ขั้นทำโจทย์ยากๆ ระดับมหาวิทยาลัยได้ แต่ถ้าเป็นโจทย์พื้นฐานประถม มัธยม โอ้ยยยย สบายมาก แม่นเป๊ะ ละเอียดยิบเลย
แต่จะว่าไปแล้วเจ้าแอปนี้ก็เป็นดาบสองคมเหมือนกันเนอะ หากๆ น้องๆ ประถม มัธยมเอาไปใช้ แล้วเกิดติดใจ ใช้เพลิน ไม่คิดเองเลย แบบนี้หล่ะก็แย่แน่ๆ ดังนั้นแบไต๋แนะนำว่า ควรใช้ตอนที่เราแก้โจทย์เองแล้ว แล้วต้องการตรวจคำตอบ หรือดูวิธีทำจะดีกว่า จะได้ทวนตัวเองไปในตัว
เอาเป็นว่า ถ้าใช้เทคโนโลยีให้ถูกวิธีชีวิตก็สบาย แต่ถ้ามักง่ายใช้แบบขี้เกียจไปเรื่อยๆ อันนี้ก็อาจเป็นภาระตอนสอบได้นะจ๊ะ

วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560

สัมผัสแรก Samsung Galaxy Note 8 สิ้นสุดการรอคอย 2 ปีกับมือถือมีปากกา

สัมผัสแรก Samsung Galaxy Note 8 สิ้นสุดการรอคอย 2 ปีกับมือถือมีปากกา

สัมผัสแรก Samsung Galaxy Note 8 สิ้นสุดการรอคอย 2 ปีกับมือถือมีปากกา

S! Hitech
สนับสนุนเนื้อหา
หลังจากที่เรามีสรุปการเปิดตัว Samsung Galaxy Note 8 กันไปแล้ว คราวนี้ทีมงาน Sanook! Hitech ได้มีโอกาสจับมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นอีกเครื่องที่มีความน่าสนใจไม่เบา เมื่อแรกจับแล้วทุกสิ่งจะเป็นอย่างไร มาดูกันในพรีวิวนี้กันเลยดีกว่า

รูปร่าง ของ Samsung Galaxy Note 8

เป็นมือถือที่มีหน้าตาเต็มจอจนเรียกได้ว่าข้างหน้านั้นมีแต่จอขนาด 6.3 นิ้วความละเอียด 2960x1440 หรือ QHD+ แบบโค้งทำให้ดูจอกว้างขึ้น ถ้าเทียบกับ Galaxy S8+ จะสังเกตได้ว่ามันจะกว้างขึ้นเล็กน้อย
ด้านบนมาพร้อมส่วนบนมี Iris Scan, ระบบสแกนใบหน้านและเซนเซอร์ครบที่เกี่ยวกับความปลอดภัยและไม่พลาดกับกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซล
ด้านล่างเป็นตำแหน่งของปุ่ม Soft Key ซึ่งจะทำงานเมื่อเครื่องเปิด ปุ่ม Home ตรงกลางกดแล้วสั่นเหมือน Galaxy S8+
ด้านข้างนั้นมีการพัฒนาให้จับได้ง่าย เน้นวัสดุของเครื่องแบบโลหะสีเดียวกับตัวเครื่อง และสังเกตว่าจะหนาขึ้นเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อทำให้ยังคงถือง่ายต่อไป ฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม Bixby ผู้ช่วยสุดฉลาด และฝั่งขวามีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิด หรือ Standby เท่านั้น
ด้านบนมีช่องใส่ซิม และ Hybrid Slot สามารถสลับได้ทั้ง Nano SIM และ Micro SD 
ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟัง, USB-C, ไมโครโฟน ช่องเก็บปากกา S Pen อยู่ตำแหน่งเดียวกัน
ด้านหลังมีกล้องหลังคู่ขนาด 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับ LED Flash, เซนเซอร์วัดชีพจร และระบบสแกนลายนิ้วมือ โดยสังเกตว่าเมื่อเครื่องเหลี่ยมขึ้นมันเลยดูใหญ่กว่า Galaxy S8+ ภาพรวมออกมา เป็น Galaxy S8+ ที่จอใหญ่ขึ้นและเน้นการจับต้องที่ง่ายมากขึ้นน่ันเองจนเรียกได้ว่า Match และลงตัวกับการถือเลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าคุณชอบปากกา S Pen จะชอบแน่นอน แถมมีให้เลือกทั้งหมด 4 สีคือ ดำ Midnight Black, ทอง Maple Gold, เทา Orchid Gray และสีใหม่อย่าง น้ำเงิน Deepsea Blue

ประสิทธิภาพ และสเปคของ Samsung Galaxy Note 8

ยังคงใช้ CPU สำหรับขายทั่วโลกเป็น Exynos 8895 Octa Core ที่ยังคงให้ประสิทธิภาพดีไม่ผิดหวัง แต่เพิ่มเติมคือ RAM ขนาด 6GB ที่เรียกได้ว่ามาคราวนี้เยอะกว่าเดิม ส่งผลให้การทำงานพร้อมกันได้ 2 หน้าจอและภาพรวมของตัวเครื่องเร็วขึ้นกว่า Galaxy S8 พอสมควร แต่ยังคงให้ความจำขนาด 64GB เพิ่มได้ด้วย Micro SD สูงสุดที่ 256GB และรองรับ WiFi 802.11 B/g/n/ac, Bluetooth Version 5, รองรับ 4G LTE Cat 16
และแบตเตอรี่ลดขนาดจาก 3500 เหลือเพียง 3300 mAh ถ้านับแล้ว ก็คือเอาแบตเตอรี่ของ Note Fan Edition มาใส่นั่นเอง แต่จะอึดแค่ไหน ต้องรอดูในลำดับต่อไป

คุณสมบัติเด่นที่ควรลอง

Samsung Galaxy Note 8 นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ของเครื่องมากมายจนเรียกได้ว่ามีทั้งใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลก และทำให้คนตื่นเต้นได้ครั้งนี้จะพูดทั้งหมด ด้งนี้
Advertisement
ปากกา S Pen แม้ว่าจะเป็นปากกาที่มีความแม่นยำเท่ากับ Galaxy Note 7 คือ 4,096 ระดับแรงกดและหัวเล็กลง แถมกันน้ำและเขียนได้แม้อยู่ในน้ำก็จริง แต่มีการรวมร่างระหว่าง Samsung Note และ Pen Up ซึ่งเป็นโปรแกรมทำภาพสำเร็จรูปให้คุณแต่งเต้ิมสีเข้าไป จนเรียกได้ว่าถ้าออกมาดี ก็จะเหมือนกับคุณให้ศิลปินชั้นเยี่ยมวาดภาพเลยก็ว่าได้ และยังคงมีการผสมสีได้ที่หลากหลายความคล่องตัวในการใช้งานมีมากขึ้น
นอกจากนี้การใบ้งาน S Pen นั้นคุณสามารถทำได้หลากหลายเช่น
  • เขียนข้อความแบบ Live Message ซึ่่งสามารถเลือกการแสดงผลที่ด้วยพื้นหลังแบบสีที่เลือกได้ หรือจะถ่ายรูปแล้วเขียนข้อความได้ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว รูปที่ปรากฎ จะเป็น Gif Animation สามารถใข้กับ Message, Facebook หรือช่องทางที่รองรับได้
  • Translator ตัวแปลภาษาแค่ใข้ปากกาจิ้มเข้าไปที่คำก็สามารถแปลได้ และคาดว่าอนาคตก่อนที่จะวางขายก็จะสามารถใช้งานแบบแปลได้ทั้งประโยคอีกด้วย เรียกได้ว่ามันจะสะดวกขึ้นเมื่อต้องไปใช้งาน ในต่างประเทศ หรือแปลข้อความที่คุณไม่รู้ศัพท์มาก่อน
  • Create Note สามารถเขียน Note ได้ทันทีแค่ดึงปากกาและกดทำให้คุณและเขียนได้ทันที
  • Screen Off Memo แม้ปิดหน้จอก็สามารถเขียนบันทึกได้ และสามารถยืนหน้าจอออกได้หลายหลายมากขึ้น ซึ่งปกติคุณสามารถเขียน Screen Off Memo ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น
 
ในระบบความปลอดภัยยังคงให้ทั้งระบบสแกนใบหนัา, สแกนม่านตา (Iris Scan), รหัสผ่านและ Pattern เหมือนเช่นเคย และยังรองรับบริการต่าง ๆ เช่น Samsung Pay, Samsung Cloud สำรองข้อมูล และอื่น ๆ อีกมากมาย 
Bixby นอกจากจะสั่งงานด้วยเสียงในภาษาเกาหลี และ อังกฤษ ได้แล้ว ยังมีฟีเจอร์ Quick Commandsสามารถสั่งให้ Bixby เปิดโปรแกรม, เปลี่ยนฟังก์ชั่นของเครื่อง และตั้งปลุกได้อย่างง่ายแค่ใช้เสียงเท่านั้น 
Samsung DeX แม้ว่าจะไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง แต่เพิ่มเติมคือการใช้งาน Apps ได้เต็มหน้าจอและสามารถ Video Call หากันแล้วเสียบไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของ DeX ได้แล้ว จึงเรียกว่า Samsung DeX เป็นอีก 1 ประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานที่ดีไม่เบา และสามารถเล่นเกมได้ด้วย
และ Hilight สำคัญคือกล้องหลังของ Samsung Galaxy Note 8 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แม้จะยังคงใช้ขนาด 12 ล้านพกเซล Dual Pixel แต่การมาของกล้องเลนส์คู่ในครั้งนี้ ก็มีฟีเจอร์ที่ร้ายกาจ และดีงามอยู่ในนี้คือ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวทั้งเลนส์ Wide และ Tele ทำให้การถ่ายวีดีโอนั้นนิ่งมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Live Focus ซึ่งสามารถถ่ายภาพได้ทั้งหมด 2 รูปแบบในเวลาเดียวกันคือ จะเอาระยะใกล้หรือไกลก็ได้ แต่ถ้าเลือกระยะไกลแล้ว ข้อดีคือ คุณสามารถเลือกโฟกัสได้ว่าจะเอาแบบชัดทั้งหมด หรือชัดเฉพาะวัตถุได้เรียกได้ว่ามันเป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว
img_1653
นอกจากนีอุปกรณ์เสริมของ Samsung ก็มีหลากหลายรายการที่น่าสนใจและรวมไปถึงเคสแบบมีที่ตั้งในตัว และยังได้รับความแข็งแรงทนทานอีกด้วย
ภาพรวมหลังจากที่ลองนั้นถือว่าเป็นการแก้เกมของ Samsung ที่ออกมามือถือมาหลายรุ่น แต่สุดท้าย Galaxy Note 8 ก็ถูกมองว่าเป็นนวัตกรรมที่แฟน Samsung Galaxy Note รอคอยมาเกือบ 2 ปีด้วยกัน และทั้งหมดที่ Samsung ทำมา ก็มีการเปิดเผยว่า Galaxy Note 8 เกิดขึ้นเพราะคุณผู้ใช้ที่ให้คำแนะนำและกำลังใจที่ดีกับ Samsung นั่นเอง 
ส่วนราคาของ Samsung Galaxy Note 8 นั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด ถ้าใครอยากได้นั้นคงต้องรอสักหน่อย เพราะกำหนดวางขายทั่วโลก 15 กันยายนนี้ และมีโชว์ครั้งแรกในงาน IFA 2017 ที่กรุงเบอร์ลินนั่นเอง