ติดต่อ-สอบถาม

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

7 เหตุผลที่ทำให้ Google Pixel เป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่ดีที่สุด

7 เหตุผลที่ทำให้ Google Pixel เป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่ดีที่สุด

7 เหตุผลที่ทำให้ Google Pixel เป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่ดีที่สุด

โทรศัพท์รุ่นใหม่ Google Pixek นั้น ไม่ได้เป็นแค่อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับโทรศัพท์แอนดรอยด์ แต่มันคือโทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์ที่ดีที่สุดที่คุณจะหาซื้อมาใช้ได้เลยทีเดียว นั่นเป็นเพราะการใช้ Pixel จะทำให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์อย่างมากมายเหนือกว่าโทรศัพท์รุ่นอื่น ๆ และ 7 สิ่งต่อไปนี้ เป็นคุณสมบัติพิเศษ ที่มีอยู่ใน Pixel
  • มี Google Assistant ซึ่งเป็นระบบการช่วยเหลือดิจิตอลรุ่นใหม่ล่ของ Google เป็นระบบที่ใช้งานง่ายอย่างเหลือเชื่อ เป็นระบบช่วยเหลือที่ทำได้หลายอย่างมากจนทำให้ Siri และคู่แข่งรายอื่น ๆ ต้องยอมรับ และในขณะนี้ Pixel ก็เป็นโทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์เพียงรุ่นเดียว ที่มี Google Assistant
  • ระบบแอนดรอยด์จะอัพเดททันที โทรศัพท์แอนดรอยด์นั้น มีการอัพเดทกันบ่อยครั้ง ผู้ผลิตโทรศัพท์แอนดรอยด์อย่างซัมซุง ก็ต้องปรับเวอร์ชั่นของแอนดรอยด์ด้วยซอฟต์แวร์พิเศษบางครั้งก็ใช้เวลาในการรอคอย แต่สำหรับ Pixel แล้ว จะไม่เหมือนกัน เพราะมันเป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์เพียงรุ่นเดียวที่รับประกันความใหม่ของการอัพเดทโดย Google ซึ่งจะอัพเดททันทีที่เวอร์ชั่นใหม่พร้อมให้ใช้งาน
  • มีการติดตั้งระบบบริการลูกค้าอยู่ในตัว โดย Pixel นั้น มาพร้อมกับแอพที่จะช่วยให้ผู้ใช้สนทนาหรือ แชทกับเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 7 วัน สามารถทำได้แม้กระทั่งการให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูจอภาพและให้คำแนะนำ หรือช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้ได้อย่างสะดวกสบาย
  • มีเครื่องมือที่จะช่วยให้เปลี่ยนจากไอโฟน มาใช้ Pixel ได้ง่าย ๆ เหมือนกับการกระโดดจากไอโฟน มาเป็น Pixel ได้ง่าย  ๆ เลย เพราะ Pixel จะมีอแดปเตอร์ที่คุณสามารถเสียบไอโฟนเครื่องเก่า เข้ากับ Pixel ระบบการโอนถ่ายนี้ จะทำให้ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นรายชื่อ เพลง ภาพ และอื่น ๆ จากไอโฟน โอนย้ายเข้ามาสู่ Pixel ได้ง่าย ๆ
  • ผู้ใช้จะได้รับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์แบบไม่จำกัด เก็บได้แม้กระทั่งภาพที่มีความคมชัดสูง เพราะ Pixel นั้น เสนอพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ไม่จำกัดให้ผู้ใช้ได้ใช้กันฟรี สามารถเก็บได้ทั้งภาพ และวีดีโอ ลงใน Google Photos ภาพและวีดีโอทั้งหมดจะเข้าไปอยู่ใน Google Photos ทำให้หมดกังวลกับเรื่องภาพจะหาย หรือพื้นที่ไม่เพียงพอ
  • ไม่จำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์เพิ่มเติมใด ๆ จากผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย เนื่องจากโทรศัพท์แอนดรอยด์ส่วนมากในสหรัฐ จะมาพร้อมกับแอพพิเศษจากผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย หรือจากบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์ แอพเหล่านี้ส่วนมากไม่มีประโยชน์ ไม่ได้ช่วยอะไร นอกจากจะเป็นขยะอยู่ในเครื่องเท่านั้น ซึ่งเรียกกันว่า Crapware แต่ Pixel ไม่มีซอฟต์แวร์เหล่านี้ จะมีให้เฉพาะแอพที่มีความจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น
  • ไม่มีความจำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ไม่มีประโยชน์ ที่ติดมากับผู้ผลิตโทรศัพท์ เนื่องจากผู้ผลิตโทรศัพท์แอนดรอยด์ส่วนมาก จะมีการปรับแต่งระบบปฏิบัติการ ดังนั้นระบบที่ใช้จึงอาจจะมีความแตกต่างจากต้นฉบับ ซึ่งบางครั้งก็ก่อให้เกิดปัญหากับการใช้งาน ทั้งหน้าจอรก ทั้งซอฟต์แวร์อัพเดทช้า แต่สำหรับ Google Pixel นั้น ใช้ระบบจริงของแอนดรอยด์ ซึ่งผู้ใช้จะได้นับประสบการณ์ที่ดีกว่าในการใช้งานระบบปฏิบัติการที่เป็นต้นฉบับ ซึ่งนั่น จะมีก็เฉพาะ Pixel และ Nexus รุ่นใหม่ ๆ เท่านั้น
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : businessinsider

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เจาะลึกโปรโมชั่น ซื้อ iPhone SE พร้อมเปลี่ยนโปรโมชั่น ลดเหลือ 7,800 บาท

เจาะลึกโปรโมชั่น ซื้อ iPhone SE พร้อมเปลี่ยนโปรโมชั่น ลดเหลือ 7,800 บาท

เจาะลึกโปรโมชั่น ซื้อ iPhone SE พร้อมเปลี่ยนโปรโมชั่น ลดเหลือ 7,800 บาท

แม้ว่ากระแสของ iPhone 7 จะกลบ iphone รุ่นอื่นไว้หมด รวมไปถึงการลดราคาของ iphone 6s จนเป็นเจ้าของได้ง่ายแล้ว น้องเล็กอย่าง iPhone SE ก็มีโปรเด็ดจาก truemove h มาให้คนที่สนใจกับ iphone รุ่นเล็กน่ารัก แต่สเปคจัดหนักจัดเต็มไม่น้อย

รายละเอียดมีดังนี้
- iPhone SE ขนาด 16gb สมัครโปรโมชั่น 499 พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 3,000 บาท รับส่วนลด 7,000 บาท สามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 9,800 บาท จากปกติ 16,800 บาท
- iPhone SEขนาด 16gb สมัครโปรโมชั่น 699 พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 4,000 บาท รับส่วนลด 8,000 บาท สามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 8,800 บาท จากปกติ 16,800 บาท
- iPhone SE ขนาด 64gb สมัครโปรโมชั่น 499 พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 3,000 บาท รับส่วนลด 7,000 บาท สามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 12,300 บาท จากปกติ 19,300 บาท
- iPhone SE ขนาด 64gb สมัครโปรโมชั่น 699 พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 4,000 บาท รับส่วนลด 8,000 บาท สามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 11,300 บาท จากปกติ 19,300 บาท
หมายเหตุ: ระยะเวลาสัญญา 12 เดือน รับส่วนลดนาน 12 เดือน และผู้ที่ย้ายค่ายจะลดเพิ่มอีก 1,000 บาท จะทำให้ซื้อ iphone se 16gb ได้ในราคา 7,800 บาท
โปรโมชั่นนี้ถือว่าน่าสนใจมากสำหรับคนที่ต้องการหา iphone se ในเวลานี้ สำหรับคนที่สนใจสามารถดูได้ที่ทรูช็อปได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : Truemove H

เลือกสายชาร์จมือถืออย่างไร ไม่ให้ถูกหลอกว่าเป็นสายแท้

เลือกสายชาร์จมือถืออย่างไร ไม่ให้ถูกหลอกว่าเป็นสายแท้

เลือกสายชาร์จมือถืออย่างไร ไม่ให้ถูกหลอกว่าเป็นสายแท้

คำถามที่หลายคนตั้งอยู่คือเรื่องของการเลือกสายชาร์จมือถือ ทั้งที่มีหลายรูปแบบมากมายไม่ว่าจะเป็นแบบ Hi-Speed, Fast Charge หรืออื่น ๆ มากมาย และรวมถึงจะดูได้ไงว่าเป็นสายชาร์จปลอม วันนี้ Sanook! Hitech จะมาไขคำตอบเรื่องสายชาร์จว่าดูอย่างไรได้ของแท้และทน และไม่ให้โดนหลอกว่าคือสายปลอม
ดูกล่อง และการ บรรจุสาย
ความเนียบของกล่องและ โลโก้ที่ชัดเจน และรูปสายที่ชัดเจน จะทำให้คุณรู้ได้ชัดเจนว่าสายนั้นของแท้ แต่ส่วนนี้มันลอกเลียนแบบได้ ดังนั้นการเปิดมาดูสายข้างใน ถ้าไม่มีการรัดที่เรียบร้อย หรือตัวสายไม่สะอาด ก็อาจจะเป็นของปลอมได้
ดูสภาพและความแน่นของสาย
ตัวสายชาร์จเวลากดที่ตัวสาย จะต้องมีความแน่นหนา และหัวชาร์จต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เสียบกับเครื่องต้องแน่นหนา ไม่หลุดง่าย หากหลุดง่าย อาจจะได้ของที่ชำรุดมา แต่ถ้าผ่านการใช้งานสักระยะแล้ว อาจจะมีอาการหลวงได้แต่ไม่ควรจะหลุดง่าย
เสียบชาร์จไฟต้องจ่ายไฟต่อเนื่อง ไม่ช้า
อัตราการจ่ายไฟนั้นนอกจากดูที่อุปกรณ์รับไฟ หรือ Power Bank แล้ว เราควรดูจากสาย ถ้าเกิดชาร์จแล้วใช้ระยะเวลานานเกินไป ให้คิดไว้ก่อนว่า สายอาจจะไม่ได้รับมาตรฐานแล้ว หรือไม่สามารถทนต่อแรงจ่ายข้อมูล
สามารถโอนถ่ายข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ได้
หากสายที่ซื้อมามีราคาไม่ได้ถูกเกินไปและแพงเกินไป จะต้องสามารถถ่ายโอนข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ได้ แต่ถ้าสายที่ถูกเกินไป ส่วนใหญ่จะออกแบบให้ชาร์จไฟได้อย่างเดียว เสียบกับคอมพิวเตอร์แล้วจะไม่ค่อยเห็น
วัสดุต้องยื่ดหยุ่น
ปกติสายชาร์จไฟจะต้องมีความยืดหยุ่นและไม่หักในง่ายอย่างที่ควรจะเป็น แต่ถ้าสายไหนเกิดใช้งานแล้วอยู่ดี ๆ เกิดอาการหักในขึ้นมา แสดงว่าสายนั้นไม่ได้มาตรฐาน
ดังนั้นการเลือกสายชาร์จมือถือควรจะเลือกที่ราคาสมเหตุสมผล จะได้ไม่เจ็บหนักกับของถูกเกินไปแต่คุณภาพไม่สามารถใช้งานได้จริงครับ

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ชมคลิปแกะกล่อง One Plus 3T สุดพิสดารบนเครื่องบินรบ

ชมคลิปแกะกล่อง One Plus 3T สุดพิสดารบนเครื่องบินรบ

ชมคลิปแกะกล่อง One Plus 3T สุดพิสดารบนเครื่องบินรบ

ปกติการแกะกล่องมือถือที่ผ่านมา นอกจากแกะบนโต๊ะ ยันใต้น้ำรวมถึงขับรถในสนามแข่ง อาจจะยังไม่บ้าพอเท่ากับคลิปนี้ เพราะ One Plus ได้ทำคลิปแกะกล่อง One Plus 3T บน เครื่องบินรบเป็นครั้งแรก จะเป็นอย่างไร มาดูกัน
สำหรับรายละเอียดของ One Plus 3T นั้นตัวเครื่องใช้วัสดุอะลูมิเนียมแบบ Unibody พร้อมกับ CPU จาก Qualcomm Snapdragon 821 พร้อมกับ RAM 6GB มีกล้องหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซล โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่รุ่น 64GB ที่ 430 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 15,300 บาท และ รุ่น 128GB อยู่ที่ 480 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 17,000 บาท
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : Phonearena

Megahonyaku โทรโข่งแปลภาษามาแล้ว

Megahonyaku

ทาง Panasonic เปิดตัว Megahonyaku โทรโข่งช่วยแปลภาษาให้อัตโนมัติ แปลได้ออกมาเป็นภาษาอังกฤษ, จีนและเกาหลีภายในเวลาไม่กี่วินาที

ตัวชื่อนั้นมาจากการเล่นคำภาษาญี่ปุ่น ภายนอกมันอาจจะดูเหมือนโทรโข่งทั่วไป แต่ภายในเค้าเสริมความสามารถในการแปลภาษาเข้าไป เพียงแค่เราพูดปกติใส่มัน จากนั้นก้กดปุ่มแปลภาษา รอไม่กี่วินาที มันก็จะทวนสิ่งที่คุณพูดให้ออกมาเป็นภาษาอังกฤษ จีนหรือเกาหลีให้อัตโนมัติ ภายในเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น แม้มันจะยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี
ในช่วงเริ่มต้นนี้มันสามารถเข้าใจและแปลได้ประมาณ 300 ข้อความ นอกจากนั้นถ้าคุณไม่อยากพูดออกโทรโข่งก็สามารถ กดเลือกประโยคจากจอสัมผัสที่อยู่ด้านบนก็ได้ ซึ่งจะมีข้อความที่ใช้บ่อยๆให้เลือก เช่น กรุณาต่อเป็นแถวตอนเดียว หรือ รถไฟดีเลย์ เป็นต้น โดยผู้ใช้นั้นสามารถเพิ่มข้อความด้วยตัวเองหรือดาวน์โหลดเพิ่มทีหลังก็ได้เมื่อมีการอัพเดท
เป้าหมายของอุปกรณืตัวนี้ ก็เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารกับคนต่างชาติที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ที่มีจำนวนมากขึ้นนั่นเอง เพราะคนญี่ปุ่นส่วมากจะพูดภาษาต่างประเทศไม่ค่อยได้ ซึ่งมันจะช่วยให้บอกข้อมูลสำคัญๆให้คนต่างชาติได้รู้ นอกจากนั้นยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์เวลาเกิดเหตุการฉุกเฉินได้ด้วย เพราะมันสามารถแปลได้แม้จะมีเสียงรบกวนจากภายนอก
สนนราคาขายของโทรโข่งชิ้นนี้อยู่ที่ราวๆ $200 หรือประมาณ 7,000 บาท ซึ่งจะมีค่าบริการรายเดือนด้วยและจะเริ่มขายจริงในช่วงปลายปีนี้ โดยทางพานาโซนิคตั้งเป้าว่าจะนำไปใช้ในหน่วยงานธุรกิจที่มีนักท่องเที่ยวสัญจรไปมาอย่างคับคั่ง อย่างในสนามบิน สถานีรถไฟ รวมถึงจุดท่องเที่ยวต่างๆ
VIA Geek

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Sevenhugs รีโมทเดียว สั่งเครื่องใช้ได้ทุกอย่าง



Sevenhugs

ใครมีปัญหาเรื่องรีโมทเยอะแยะเต็มบ้านไปหมด ตอนนี้ Sevenhugs เค้าพัฒนารีโมทเดียว สั่งเครื่องใช้ได้ทุกอย่าง เพียงแค่ชี้ไปที่ของที่ต้องการ
นี่คือ Smart Remote ที่จะช่วยให้คุณสั่งงานทีวี, media players, ลำโพง, หลอดไฟและอุปกรณ์อีกหลายอย่างได้ด้วยรีโมทอันเดียว เพียงแค่ชี้รีโมงไปยังอุปกรณ์ที่ต้องการก็สั่งงานได้ราวกับมีเวทย์มนต์
ตัวเครื่องสามารถสั่งงานอุปกรณ์ได้ทั้งผ่าน Wi-Fi, บลูทูธ รวมถึงอินฟราเรด นั่นหมายความว่ามันรองรับเครื่องใช้มากกว่า 25,000 เครื่อง แถมทีมงานยังขยันทำให้รองรับเพิ่มอุปกรณ์ใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการใช้ซึ่งก่อนจะสั่งให้ใช้งานอะไรก็ให้เข้าไปตั้งค่าก่อนผ่านแอปบนสมาร์ทโฟน
ในการทำงานนั้นรีโมทจะมาพร้อมกับเซนเซอร์ 3 ตัวสำหรับติดตั้งรอบห้องสำหรับสร้างแผนที่สามมิติขึ้นมา รองรับพื้นที่ได้มากสุด 100 ตารางเมตร ซึ่งมันจะใช้จับตำแหน่งที่คุณยืนในห้อง รวมถึงทิศทางที่คุณหันรีโมทไป
รีโมทเป็นจอสัมผัสความละเอียด HD สามารถแสดงภาพต่างๆได้ โดยหน้าจอจะเปลี่ยนไปตามอุปกรณ์ที่คุณต้องการสั่งงาน ถ้าหากของใช้สองอย่างอยู่ติดกัน อย่างเช่น ลำโพงกับทีวี กลัวชี้ไปแล้วไม่ถูกชิ้นที่ต้องการ ไม่ต้องห่วงค่ะ ชี้เครื่องไหนก็ได้ จากกนั้นด้านบนของรีโมทจะมีไอคอนให้เลื่อนเพื่อเลือกของชิ้นที่ต้องการ ซึ่งตรวส่วนนี้สามารถเลือกควบคุมเครื่องใช้ที่อยู่จุดอื่นๆของบ้านได้ด้วย
 นอกจากนั้นตัวรีโมทยังรองรับการทำงานกับบริการอื่นๆได้อีกเพื่อให้มาแสดงบนหน้าจอ เช่น การรายงานสภาพอากาศ รวมถึงการเรียกรถจาก Uber ได้ด้วย สำหรับคนที่ชอบลืมวางรีโมทไว้ตามที่ต่างๆจนหาไม่เจอ ไม่ต้องห่วงค่ะ เพียงแค่กดปุ่มที่อยู่บนแท่นชาร์จ รีโมทก็จะส่งสัญญาณเสียงบอกให้รู้ว่าอยู่ตรงไหน
 ส่วนนักพัฒนาที่สนใจนั้นเค้าก็เตรียมเปิด open API และมี SDK ซอฟท์แวร์สำหรับนักพัฒนาให้ด้วย ผลงงานชิ้นนี้เรียกว่าเข้าตากรรมการจนได้รางวัล Most Innovative Product ในหมวด Smart Home จากงาน CES 2017 ด้วยล่ะใครที่อยากได้ก็สามารถเข้าไปสั่งจองได้ในเว็บ Kickstarter ได้เลยค่ะ โดยจะเริ่มส่งมอบล็อตแรก เดือนมิถุนายนปีหน้า
https://youtu.be/4RQrRsmdRWY

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

5 + 1 มือถือคุ้มครบเครื่องในงบประมาณไม่เกิน 6,000 บาท

5 + 1 มือถือคุ้มครบเครื่องในงบประมาณไม่เกิน 6,000 บาท

5 + 1 มือถือคุ้มครบเครื่องในงบประมาณไม่เกิน 6,000 บาท

หลังจากที่ได้นำเสนอโปรโมชั่นซื้อมือถือถูกกันไปแล้วหลายคนก็บอกว่าอยากได้เครื่องที่ไม่ติดสัญญา แต่ราคาไม่เกิน 6,000 บาท พอจะมีตัวเลือกนั้นอยู่ไหม คำตอบคือยังมีอยู่ครับ ซึ่งครั้งนี้ Sanook! Hitech ได้รวม 5 มือถือที่คุ้มค่าในราคาไม่เกิน 6,000 บาทมาฝากกัน
OPPO A37
เริ่มต้นกับ OPPO A37 ซึ่งออกมาสักพักจากราคาเครื่อง 6,990 บาท ตอนนี้มีการปรับราคาเหลือ 5,290 บาท ใช้หน้าจอขนาด 5 นิ้วความละเอียด 1280x720 พร้อมกับ CPU Quad Core 1.2GHz, RAM 2GB ความจำในตัว 16GB พร้อมกับกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และมี Beauty Mode ช่วยให้ภาพสวยขึ้น กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับ Auto Focus และมี LED Flash มาให้ครบด้วย
ASUS Zenfone 3 Max 5.2 นิ้ว
สำหรับคนที่ต้องการมือถือที่งบประมาณไม่มาก แต่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ASUS Zenfone 3 Max ตอบโจทย์ เพราะแม้ CPU จะเป็น Quad Core 1.25GHz, RAM 2GB พร้อมกับความจำในตัว 16GB พร้อมกับกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล แต่ให้แบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh เลยทีเดียว ในราคา 5,990 บาท แถมให้พลังงานให้กับเครื่องอื่นได้ด้วยนะ
Acer Liquid Zest 4G
Acer กลับมาแล้วด้วยรุ่นคุ้มค่าอย่าง Acer Liquid Zest 4G ซึ่งปรับปรุงเรื่อง CPU ใหม่เป็น Quad Core CPU, RAM 2GB ความจำในตัว 16GB  และมีกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และมีหน้าจอ 5 นิ้วทัชสกรีนและมีลูกเล่นเยอะมากมายในราคา 5,990 บาท ถือว่าไม่เลว มันแตกต่างกันตรงที่ 4G นั่นเอง
Huawei GR3
เป็นน้องน้อยของ Huawei GR5 แต่สำหรับ Huawei GR5 ปรับขนาดของเครื่องเป็น 5 นิ้วพร้อมกับใช้ CPU Octa Core พร้อมกับ 1.5 GHz, พร้อมกับ RAM 2GB ความจำในตัว 16GB เพิ่มความจำในตัว MicroSD, และมีกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล และ Auto Focus และมี LED Flash พร้อมกับกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ถ้ามองว่าคุ้มค่าไหม ใช่ครับ และยังไม่รวมกับโปรโมชั่นกับผู้ให้บริการ แต่ถ้าคนอยากได้แบบไม่ติดสัญญา ราคา 5,990 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่า
Lenovo Vibe K5 Plus
ยังคงเป็นรุ่นคุ้มของกลุ่มนี้เพราะ Lenovo K5 Plus เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าพอสมควร แม้ว่าจะเปิดตัวในช่วงต้นปีนี้ แต่จุดเด่นคือ CPU Qualcomm Snapdragon 616 ค่อนข้างแรงพอสมควร มี RAM 2GB พร้อมกับความจำในตัว 16GB เพิ่มความจำได้ พร้อมกับหน้าจอขนาด 5 นิ้วความละเอียด 1920x1080 พร้อมกับ กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับ Auto Focus บอดี้ด้านหลังโลหะและสามารถถอดฝาหลังได้อีกด้วย และมีลำโพง Dolby Surround ราคาตอนนี้เลยอยู่ที่ 5,290 บาท ถือว่าคุ้มค่า
Samsung Galaxy J2 Prime
หลังจากที่ Samsung ออกตระกูล J Prime เน้นความหรูหราในงบประมาณไม่ได้สูง ซึ่ง Samsung Galaxy J2 Prime นั้นมีราคาเพียง 4,490 บาท มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นทั้ง กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับ CPU Quad Core และ RAM 1.5GB พร้อมกับ ความจำในตัว 8GB เพิ่มความจำได้ รองรับ 4G และสเปคถือว่าดีสำหรับคนที่งบประมาณไม่เกิน 5,000 บาท เลยล่ะ